ตำนานภาพบทจารึกคำจีน หน้าสำนักกฎหมายธรรมนิติ

บทจารึกคำจีนในภาพนี้ ใช้ภาษาจีนโบราณ เขียนเป็นแถวตามแนวดิ่ง เริ่มจากอักษรตัวบนแถวขวาสุด เรียงลงไปด้านล่าง ต่อด้วยอักษรตัวบนของแถวด้านซ้ายถัดไปเรียงลงไปด้านล่าง ทีละแถวจากแถวขวาสุดไปจนถึงแถวซ้ายสุดจนจบข้อความ  บทจารึกนี้ เขียนบนกระดาษสำหรับเขียนอักษรจีน โดยใช้หมึกและพู่กันจีน เป็นของขวัญที่ คุณธวัชชัย ถาวรธวัช บริษัทแหลมทองสหการจำกัด ลูกค้ามอบให้ธรรมนิติ เนื่องในโอกาสที่ คุณ ไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้จัดการ (ในสมัยนั้น) จัดงานเปิดอาคารสำนักงานใหญ่ บริษัทธรรมนิติจำกัด ที่สำนักงานวัดพระยายัง อาคารเลขที่ ๑๐๐๐/๒๘-๓๐ ถนนพระรามหกตัดใหม่ แขวงถนนเพชรบุรี เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร เมื่อประมาณปี พศ.๒๕๒๔

คำแปลอักษรจีนบนภาพ

 เนื่องในโอกาสเปิดสำนักงานทนายความธรรมนิติ คุณไพศาลเป็นผู้อำนวยการ

ภูเขา..ไม่สำคัญที่ความสูง หากมีเซียนสถิตอยู่..ชื่อเสียงก็ระบือ

แม่น้ำ..ไม่สำคัญที่ความลึก หากมีมังกรอยู่..แม่น้ำก็ศักดิ์สิทธิ์

บ้านน้อยนี้..ซอมซ่อ มีเพียงคุณธรรมข้าเลื่องลือ

ตะไคร่น้ำคลุมชานบ้าน หญ้าเขียวสดส่องม่านเขียว

ในเสียงสนทนาเป็นผู้รู้ คนไปมาหาสู่ไร้ความเขลา

ดีดพิณไร้สิ่งประดับ อ่านคัมภีร์ล้ำค่า

ไร้เสียงปี่กลอง..ระคายหู ไร้หนังสือทางการ..หนักสมอง

หนันหยัง มีกระท่อมขงเบ้ง ซีสู่ มีศาลาจื่อหวิน*

ซูเว่จาง บริษัทแหลมทองสหการจำกัด ”

คำอธิบายเพิ่มเติม 

* จื่อหวิน คือ หยางจื่อหวิน (扬子云) เป็นชื่อปราชญ์จีนโบราณ มีชีวิตอยู่ระหว่างปีที่ 53 ถึงปีที่ 18 ก่อนคริสต์ศักราช เป็นชาวเมืองซีสู่ ในยุคสมัยก่อนจิ๋นซีฮ่องเต้

ศาลาจื่อหวินคือ บ้านพักของหยางจื่อหวิน  ชีสู่ คือ ชื่อเมืองที่เขาอยู่  หนันหยัง คือ ชื่อเมืองที่ขงเบ้งอยู่

บทจารึกคำจีนบทนี้ ชื่อ  陋室铭 แปลว่า “จารึกเรือนซอมซ่อ ” เขียนโดย หลิว หวี่ ซี ( 刘禹锡, ) เป็นปราชญ์จีนในสมัยราชวงศ์ถัง มีชีวิตอยู่ระหว่างปี คศ. 772-842

ผู้เขียนภู่กันจีนบนภาพ ได้ตัดวรรคสุดท้ายของบทจารึกเดิมออก สันนิษฐานว่า อาจเกิดจากพื้นที่เขียนในภาพไม่เพียงพอที่จะเขียนข้อความทั้งหมดบนกระดาษ

วรรคสุดท้ายที่ถูกตัดออก คือ “孔子云:何陋之有?” แปลว่า “ ขงจื่อว่า มันจะซอมซ่อ ได้อย่างไร?”

มาดูบท “จารึกเรือนซอมซ่อ” ที่มีข้อความเดิมครบ ตามภาพด้านล่างนี้กันครับ

 

คำอธิบายเพิ่มเติม  

อักษรจีนในบท “จารึกเรือนซอมซ่อ” ตามภาพด้านบนนี้ เป็นภาษาจีนสมัยใหม่ ใช้แบบตัวอักษรจีนชื่อ  อักษรสิงซู(行书)กึ่งหวัด ที่เขียนและอ่านแบบภาษาสมัยใหม่ เหมือนภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ คือเริ่มจากตัวอักษรซ้ายสุดของบรรทัดแรก เรียงตามตัวอักษรไปตามแนวเส้นบรรทัด จากด้านซ้ายไปด้านขวา ต่อด้วยตัวอักษรตัวซ้ายสุดของบรรทัดถัดไปเรียงไปทางด้านขวาตามแนวเส้นบรรทัด จนจบบรรทัด เรียงจากบรรทัดบนลงไปบรรทัดล่าง ทีละบรรทัด จนจบข้อความ

ความเป็นมาของบทจารึก  

หลิวหวี่ซี เคยรับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจการแผ่นดิน เขาต่อต้านการฉ้อราษฎร์บังหลวงของขุนนาง จึงถูกลดตำแหน่งให้ไปเป็นผู้พิพากษาเมืองเหอโจว

เจ้าเมืองเหอโจว รู้ว่า เขาถูกลดตำแหน่งและถูกย้ายมา จึงกลั่นแกล้ง ไม่จัดที่พักให้เหมาะสมกับตำแหน่งของเขา ซึ่งปกติต้องเป็นเรือนใหญ่มีสามหอสามห้อง แต่กลับจัดให้เขาไปพักบ้านเล็กๆด้านทิศใต้ของตัวเมือง หันหน้าไปยังแม่น้ำ เขาไม่ว่าอะไรกลับยินดี เขียนบทกวีติดไว้หน้าบ้านเป็นข้อความว่า “หันสู่ลำน้ำ ดูใบเรือขาว ตัวอยู่เหอโจว คิดโต้แย้ง”  (“面对大江观白帆,身在和州思争辩。)

เจ้าเมืองเหอโจวรู้เข้าก็โกรธ สั่งให้ย้ายที่พักของเขาไปแถวประตูด้านทิศเหนือ ลดขนาดบ้านพักลงครึ่งหนึ่ง บ้านใหม่อยู่ริมแม่น้ำเต๋อเซิ่ง มีต้นหลิวห้อยระย้า หลิวหวี่ซี ไม่ว่าอะไร เขียนกลอนติดไว้ที่หน้าประตูอีกว่า “หลิวระย้าย้อยริมน้ำ คนอยู่ลี่หยัง ใจอยู่กรุง” (“垂柳青青江水边,人在历阳心在京。”)

เจ้าเมืองเหอโจวเห็นเขายังสุขใจ สั่งให้ย้ายที่พักอีกครั้ง ไปอยู่แถวกลางเมือง เป็นกระท่อมเล็กๆ ที่มีเพียงเตียงหนึ่งหลัง โต๊ะหนึ่งตัว เก้าอี้หนึ่งตัว

ในเวลาครึ่งปี ถูกย้ายที่พักสามรอบ คราวนี้เขาเริ่มขุ่นเคือง จึงเขียนบทจารึกเรือนซอมซ่อ (陋室铭) นี้  และมอบให้คนสลักลงบนแผ่นหิน ตั้งไว้หน้าบ้าน บอกความใจซื่อมือสะอาดของตนเอง ชี้ว่า สรรพสิ่งอย่าดูเพียงแค่รูปแบบภายนอก แต่ควรต้องดูเนื้อหาแท้จริงที่อยู่ข้างใน แม้บ้านเรือนอาจจะซอมซ่อ แต่ผู้อยู่ในบ้านคือปราชญ์ ขงจื่อจึงว่า “มันจะซอมซ่อได้อย่างไร?”

จารึกคำจีนบทนี้ สะท้อนการกลั่นแกล้งคนดีในระบบราชการจีนที่เป็นปัญหาดำรงอยู่ตลอดมา เป็นจารึกคำจีนโบราณที่มีชื่อเสียงมากบทหนึ่ง แพร่หลายในหมู่ชาวจีนทั่วไป รวมถึงชาวจีนโพ้นทะเลในประเทศต่างๆทั่วโลกตลอดมา ตราบจนถึงทุกวันนี้

เส้นทางของภาพจารึกคำจีน กับ พัฒนาการของธรรมนิติ

ตอนแรกภาพจารึกคำจีนนี้ได้ติดตั้งอยู่ที่บริเวณรับแขก สำนักงานวัดพระยายังของบริษัท ธรรมนิติจำกัด ตั้งแต่ พศ.๒๕๒๔ จนถึงต้นปี พศ.๒๕๓๗ ต่อมา ธรรมนิติ ได้ปฏิรูปองค์กรให้ก้าวหน้าตามยุคสมัย โดยแปรรูปเป็น บริษัท ธรรมนิติ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทแม่ (Holding Company) ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทในเครือที่ประกอบกิจการกฎหมาย กิจการสอบบัญชี (รวมกิจการตรวจสอบภายใน) กิจการทำบัญชี กิจการฝึกอบรมสัมมนา และกิจการสำนักพิมพ์ และได้ย้ายที่ทำการจากสำนักงานวัดพระยายังไปที่สำนักงานบางโพ และ สำนักงานประชาชื่น ในปัจจุบัน ตามลำดับ

ต้นปี พศ.๒๕๓๗ บริษัทสำนักกฎหมายธรรมนิติ จำกัด ได้ย้ายที่ทำการจากสำนักงานวัดพระยายัง ไปที่สำนักงานวิทยุ ชั้น ๔ อาคารนายเลิศทาวเวอร์ ภาพจารึกคำจีนนี้ ได้ย้ายไปติดตั้งที่หน้าสำนักงานวิทยุ ตั้งแต่ปี พศ.๒๕๓๗ ถึงต้นปี พศ.๒๕๖๐ ต่อมา สำนักกฎหมายธรรมนิติได้ย้ายที่ทำการจากอาคารนายเลิศทาวเวอร์ ไปที่อาคารภักดี  ภาพจารึกคำจีนจึงได้ติดตั้งอยู่ที่บริเวณรับแขกด้านหน้าของ สำนักกฎหมายธรรมนิติ  ชั้น ๒  อาคารภักดี ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ต้นปี พศ.๒๕๖๐ จนถึงปัจจุบัน

หมายเหตุ บทความนี้บางส่วนและตอนความเป็นมา เรียบเรียงจากภาพ ข้อความและงานแปลของ คุณ วิภาดา กิตติโกวิท เรื่อง จารึกเรือนซอมซ่อ ที่เฟสบุ๊ค (FacebooK) ส่วนตัว โดยได้รับอนุญาตจากผู้เขียนแล้ว

(แก้ไขปรับปรุงล่าสุดเมื่อ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒)