ความเดิมจากตอนที่แล้ว แม้ว่านายจ้างจะรับแรงงานเด็กที่มีอายุถึงเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้มาทำงานเป็นลูกจ้างแล้ว (เด็กที่มีอายุ 15 ปี บริบูรณ์ ขึ้นไป) แต่ในการใช้แรงงานเด็กก็ยังมีข้อห้ามและข้อจำกัดหลายประการที่นายจ้างต้องระมัดระวังและปฏิบัติตาม หากนายจ้างท่านใดฝ่าฝืนอาจต้องรับโทษหนักทั้งจำคุกและถูกปรับหลายแสนบาท
ข้อจำกัดในการใช้แรงงานเด็ก ที่นายจ้างต้องพึงระวังและปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้ ได้แก่
1. ห้ามนายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี (แต่อายุเกิน 15 ปี แล้ว) ไปทำงานในระหว่างช่วงเวลา 22.00 นาฬิกา จนถึง 06.00 นาฬิกา
2. ห้ามนายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี (แต่อายุเกิน 15 ปี แล้ว) ไปทำงานล่วงเวลาหรือทำงานในวันหยุด
หากนายจ้างฝ่าฝืนให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปทำงานในระหว่างช่วงเวลา 22.00 นาฬิกา จนถึง 06.00 นาฬิกา หรือให้ไปทำงานล่วงเวลาหรือทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องรับโทษดังนี้
2.1 กรณีนายจ้างฝ่าฝืน แต่แรงงานเด็กไม่ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ หรือถึงแก่ความตาย นายจ้างต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.2 กรณีที่นายจ้างฝ่าฝืน และแรงงานเด็กไม่ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ หรือถึงแก่ความตาย นายจ้างต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
3. ข้อจำกัดในเรื่องของสถานที่ทำงาน : ในกรณีที่ลูกจ้างเป็นเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดปี กฎหมายได้กำหนดห้ามไม่ให้นายจ้างสั่งให้ลูกจ้างไปทำงานในสถานที่ดังต่อไปนี้
(1) โรงฆ่าสัตว์
(2) สถานที่เล่นการพนัน
(3) สถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ
(4) สถานที่อื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งได้แก่
(4.1) โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับสัตว์น้ำ ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน
(4.2) สถานประกอบกิจการที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับการแปรรูปสัตว์น้ำ ตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558
หากนายจ้างฝ่าฝืนให้ลูกจ้างเป็นเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดปี ไปทำงานในสถานที่ดังกล่าวข้างต้น นายจ้างต้องรับโทษ คือ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 400,000 บาทถึง 800,000 บาทต่อลูกจ้างหนึ่งคน หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ


