ถอดคำพิพากษาภาษี EP6 ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีซื้อต้องห้าม

ถาม : การประกอบกิจการขนส่งสินค้าในและนอกราชอาณาจักรต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ อย่างไร และภาษีซื้อที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้านอกราชอาณาจักรสามารถนำมาหักในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มได้หรือไม่

ตอบ : การประกอบกิจการขนส่งสินค้าจากในราชอาณาจักรไปนอกราชอาณาจักร และการขนส่งสินค้าจากนอกราชอาณาจักรเข้ามาในราชอาณาจักร ถือเป็นกิจการที่บางส่วนได้ทำหรือได้ใช้บริการนั้นในราชอาณาจักร จึงอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ส่วนการขนส่งสินค้านอกราชอาณาจักรจากประเทศหนึ่งไปอีกประเทศหนึ่งเป็นการรับขนสินค้านอกราชอาณาจักร แม้มีการทำธุรกรรมประสานงาน หรือติดต่อลูกค้าในราชอาณาจักรก็ถือว่าเป็นกิจการที่ไม่มีส่วนใดได้ทำหรือได้ใช้บริการนั้นในราชอาณาจักร จึงไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งนี้ ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 80/1 (3) ประกอบกับมาตรา 77/2 ด้วยเหตุนี้ภาษีซื้อที่เกี่ยวกับการขนส่งสินค้านอกราชอาณาจักรจึงเป็นภาษีซื้อต้องห้ามตามประมวลรัษฎากรมาตรา 82/5 (3)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 547/2555 การดำเนินธุรกิจของโจทก์ที่ให้บริการขนส่งระหว่างประเทศมีการประกอบกิจการหลายกิจการ แม้ประมวลรัษฎากรไม่ได้ให้ความหมายไว้ว่า “การขนส่งระหว่างประเทศ” ที่ให้ผู้ประกอบการใช้อัตราภาษีร้อยละ 0 ในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากรมาตรา 80/1(3) หมายถึงกิจการในลักษณะใดบ้าง แต่บทบัญญัติในมาตราดังกล่าวต้องอยู่ภายใต้บังคับของประมวลรัษฎากร มาตรา 77/2 ที่บัญญัติว่า “การกระทำกิจการดังต่อไปนี้ในราชอาณาจักร ให้อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามบทบัญญัติในหมวดนี้ (๑) การขายสินค้าหรือการให้บริการโดยผู้ประกอบการ (๒) การนำเข้าสินค้าโดยผู้นำเข้า”

การให้บริการในราชอาณาจักรให้หมายถึง บริการที่ทำในราชอาณาจักร โดยไม่คำนึงว่าการใช้บริการนั้นจะอยู่ในต่างประเทศหรือในราชอาณาจักร

การให้บริการที่ทำในต่างประเทศและได้มีการใช้บริการนั้นในราชอาณาจักร ให้ถือว่าการให้บริการเป็นการให้บริการในราชอาณาจักร”

ดังนั้น การขนส่งระหว่างประเทศที่จะอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงหมายถึงกิจการการขนส่งที่บางส่วนได้ทำหรือได้ใช้บริการนั้นในราชอาณาจักร ซึ่งต้องแยกพิจารณาเป็นรายกิจการ

สำหรับกิจการในส่วนที่เป็นการขนส่งสินค้าจากในราชอาณาจักรออกไปนอกราชอาณาจักร และในส่วนที่เป็นการขนส่งสินค้าจากนอกราชอาณาจักรเข้ามาในราชอาณาจักร ถือเป็นกิจการที่บางส่วนได้ทำหรือได้ใช้บริการนั้นในราชอาณาจักร จึงอยู่ในบังคับที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

แต่กิจการในส่วนที่เป็นการขนส่งสินค้านอกราชอาณาจักรจากประเทศหนึ่งไปอีกประเทศหนึ่งเป็นการรับขนสินค้านอกราชอาณาจักรทั้งสิ้น แม้มีการทำธุรกรรมประสานงานหรือติดต่อลูกค้าในราชอาณาจักร แต่ลักษณะสำคัญของการให้บริการโดยตรงของโจทก์คือการให้บริการรับขนสินค้า จึงถือว่าเป็นกิจการขนส่งสินค้าที่ไม่มีส่วนใดได้ทำหรือได้ใช้บริการนั้นในราชอาณาจักร จึงไม่อยู่ในบังคับที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากร มาตรา 77/2 โจทก์จึงไม่อาจนำภาษีซื้อในส่วนนี้มาหักในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มได้ เนื่องจากเป็นภาษีซื้อต้องห้ามที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการประกอบกิจการของโจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากร มาตรา 82/5 (3)