สิทธิประโยชน์ทางภาษีของผู้ที่ซื้อบ้านหรืออาคารชุดก่อนสิ้นปี 2559

สิทธิประโยชน์ทางภาษีของผู้ที่ซื้อบ้านหรืออาคารชุดก่อนสิ้นปี 2559

ราชศักดิ์ กุลกัลยา
บริษัท สำนักกฎหมายธรรมนิติ จำกัด

                ข่าวดีสำหรับคนที่ต้องการจะซื้อบ้านและห้องชุดในปีนี้ เนื่องจากท่านจะได้ประโยชน์ประหยัดภาษีของท่านเป็นของแถมด้วยเป็นระยะเวลาถึง 5 ปีติดต่อกัน โดยรัฐบาลได้มีนโยบายในการบรรเทาภาษีให้แก่ผู้ที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย รัฐมนตรีกระทรวงการคลังจึงออกกฎกระทรวงฉบับที่ 313 พ.ศ.2559ฯ โดยกำหนดให้ยกเว้นเงินได้ไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 ตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

1. จำนวนเงินได้ที่ท่านจะได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา[1]

1.1 ท่านจะได้รับประโยชน์ในการประหยัดภาษีตามกฎกระทรวงฉบับนี้ ท่านต้องซื้อบ้านหรือห้องชุดมูลค่าไม่เกิน 3 ล้าน ไม่ว่าบ้านหรือห้องชุดที่ท่านซื้อมานั้น จะเป็นมือหนึ่งหรือมือสอง ทั้งนี้ต้องเป็นบ้านพร้อมที่ดิน หรือห้องชุดในอาคารชุดเท่านั้น ดังนั้นหากท่านซื้อที่ดินซึ่งไม่มีอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างเพื่ออยู่อาศัย ย่อมไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎกระทรวงฉบับนี้

1.2 จำนวนเงินได้ที่ท่านจะได้สิทธินำไปลดรายได้ในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้นรวมตลอดทั้ง 5 ปี จะมีจำนวนเท่ากับ ร้อยละ 20 ของมูลค่าบ้านที่ท่านซื้อ หากท่านซื้อบ้านมูลค่า 3 ล้านบาท ท่านจะได้สิทธิลดรายได้ของท่านในการคำนวณภาษีเป็นจำนวน 6 แสนบาท

1.3 เงินจำนวน 6 แสนบาท ที่ท่านได้รับสิทธิตามที่ยกตัวอย่างมานั้นจะถูกนำมาเฉลี่ยเป็นจำนวนเท่าๆกัน เป็นเวลา 5 ปี ภาษีติดต่อกัน ดังนั้นแต่ละปีท่านจะได้สิทธินำไปลดรายได้ของท่านในการคำนวณภาษีจำนวน 120,000 บาท โดยนับตั้งแต่ปีที่จ่ายเงินซื้อบ้านหลังดังกล่าวเป็นต้นไป

2. เงื่อนไขของผู้มีเงินได้

2.1 ท่านต้องไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารพร้อมที่ดินหรือห้องชุดในอาคารชุดมาก่อน ดังนั้นหากท่านเคยมีบ้านหรือห้องชุดมาก่อน แม้ว่าจะได้จำหน่าย จ่าย โอนไปก่อนที่กฎกระทรวงนี้จะใช้บังคับ ท่านก็ไม่มีสิทธิที่จะได้รับประโยชน์ทางภาษีตามกฎหมายฉบับนี้ ทั้งนี้ไม่รวมถึงกรณีที่ท่านมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินเปล่า ไร่นา หรือ สวนผลไม้ ที่ไม่มีอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างเพื่ออยู่อาศัย

2.2 ท่านต้องจ่ายค่าซื้อบ้านหรือห้องชุดโดยต้องมีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ในระหว่างวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559[2]  ดังนั้นหากท่านได้ชำระราคาค่าบ้านในช่วงเวลาดังกล่าว แต่กลับมีการโอนกรรมสิทธิ์หลังช่วงเวลานี้ ท่านจะเสียสิทธิไม่ได้รับประโยชน์ทางภาษีตามกฎกระทรวงฉบับนี้แต่อย่างใด

2.3 ท่านจะต้องมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในบ้านหรือห้องชุดที่ซื้อมาเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันที่จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในบ้านหรือห้องชุดนั้น แต่ไม่รวมถึงกรณีผู้มีเงินได้ถึงแก่ความตายหรือกรณีที่อสังหาริมทรัพย์นั้นสิ้นสภาพไปทั้งหมด[3] ทั้งนี้การสิ้นสภาพไปทั้งหมดของอสังหาริมทรัพย์นั้นต้องเป็นกรณีที่เกิดจากเหตุสุดวิสัยเท่านั้น ย่อมไม่รวมถึงกรณีที่ท่านมีเจตนาทำลาย หรือทุบอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวทิ้ง

ตัวอย่าง

นายขาว ซื้อบ้านพร้อมที่ดินมูลค่า 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2559  เงินได้ของนายขาวจำนวน 6 แสนบาท (ร้อยละ 20 ของ 3 ล้านบาท) ถือว่าเป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ทั้งนี้นายขาวจะได้รับสิทธิไม่ต้องนำมาคำนวณภาษีเงินได้ปีละ 120,000 บาท (เฉลี่ย 5 ปีภาษี จาก 6 แสนบาท ) เป็นเวลา 5 ปี ติดต่อกัน ถ้าในปีภาษี 2559 นายขาวมีเงินได้พึงประเมินที่ต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้ จำนวน 1 ล้านบาท นายขาวจะได้รับสิทธิยกเว้นเงินได้ 120,000 บาท เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษี ดังนั้น นายขาวจะมีเงินได้พึงประเมินที่ต้องนำไปคำนวณภาษีเหลือเพียง 880,000 บาท

ท้ายที่สุดนี้ นอกจากท่านได้จะได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎกระทรวงฉบับนี้แล้ว หากท่านได้ซื้อบ้านหรือห้องชุด ภายในวันที่ 28 เมษายน 2559 ท่านยังได้สิทธิลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการโอน จากค่าธรรมเนียมปรกติ 2% เหลือเพียง 0.01% ของราคาประเมินอสังหาริมทรัพย์เป็นของแถมอีกด้วย[4]

 


[1] ข้อ 1. ของ กฎกระทรวง ฉบับที่ 313 (พ.ศ. 2559) ฯ

[2] ข้อ 2. ของ กฎกระทรวง ฉบับที่ 313 (พ.ศ. 2559) ฯ

[3] ข้อ 3. ของ กฎกระทรวง ฉบับที่ 313 (พ.ศ. 2559) ฯ

[4] หนังสือกรมที่ดินที่ มท.0505.4/ว26244 ลงวันที่ 28 ตุลาคม 2558