• ธรรมนิติ
  • /
  • ข่าว
  • /
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติ เผยตัวเลขคนตกงาน เดือนม.ค. 8.8 แสนคน

สำนักงานสถิติแห่งชาติ เผยตัวเลขคนตกงาน เดือนม.ค. 8.8 แสนคน

นางธนนุช ตรีทิพยบุตร เลขาธิการสถิติแห่งชาติ
สำนักงานสถิติแห่งชาติ กล่าวว่า ได้สำรวจภาวะการทำงานของประชากรเดือน ม.ค.
2552 พบว่า มีผู้ว่างงาน  8.8 แสนคนหรือคิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 2.4
เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดือน ม.ค. 2551 มีจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 2.5
แสนคน (จาก 6.3 แสนคน เป็น 8.8 แสนคน)
หรือมีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7

หากเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมา
ก็ยังพบว่ามีจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นจำนวน 3.4 แสนคน (จาก 5.4 แสนคน เป็น
8.8 แสนคน) และถ้าพิจารณาถึงสถานภาพแรงงานในเดือน ม.ค. 2552 นี้
มีผู้มีอายุ 15 ปีขึ้นไปทั้ง สิ้น 52.51 ล้านคน เป็นผู้อยู่ในกำลังแรงงาน
37.30 ล้านคน ซึ่งประกอบไปด้วย ผู้มีงานทำ 36.20 ล้านคน ผู้รอฤดูกาล 2.2
แสนคน และผู้ว่างงาน 8.8 แสนคน ส่วนผู้อยู่นอกกำลังแรงงานมีจำนวน 15.21
ล้านคน

เมื่อพิจารณาอัตราการว่างงานเป็นรายภาค พบว่า
ภาคใต้มีอัตราการว่างงานสูงที่สุดร้อยละ 3.9  รองลงมา คือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 2.7 ภาคกลางร้อยละ 2.1 ภาคเหนือร้อยละ 1.7
ส่วนกรุงเทพมหานคร มีอัตราการว่างงานน้อยที่สุดร้อยละ 1.3
และเมื่อเปรียบเทียบอัตราการว่างงานกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2551
พบว่าอัตราการว่างงานทั่วประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7

โดยภาคใต้มีอัตราการว่างงานเพิ่ม ขึ้นสูงสุด คือ ร้อยละ 2.5
ภาคกลางเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3
และภาคเหนือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1
ในขณะที่กรุงเทพมหานครมีอัตราการว่างงานลดลงร้อยละ 0.2

หากพิจารณาการว่างงานเดือน ม.ค. 2552 ในแต่ละกลุ่มอายุ พบว่ากลุ่มเยาวชน
(อายุ 15-24 ปี) มีจำนวน 3.7 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 7.7
และกลุ่มวัยทำงาน (อายุ 25 ปีขึ้นไป) จำนวน 5.1 แสนคน
อัตราการว่างงานร้อยละ 1.6 ทั้งนี้ ในส่วนของการว่างงานใน
กลุ่มวัยเยาวชนมีจำนวนมากกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ
เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นผู้เพิ่งจบการศึกษาใหม่
เป็นผู้ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดแรงงาน และกำลังหางานทำ

ส่วนผู้ว่างงานตามประสบการณ์การทำงาน ในเดือน ม.ค. 2552 
พบว่าจากจำนวนผู้ว่างงาน  8.8 แสนคน ประกอบด้วย
เป็นผู้ที่ไม่เคยทำงานมาก่อน 1.5 แสนคน และผู้ที่เคยทำงานมาก่อน 7.3 แสนคน
สำหรับผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อนเป็นผู้ว่างงานจากนอกภาคเกษตรกรรม 5.3 
แสนคน ซึ่งประกอบด้วย ภาคการผลิต 3.2 แสนคน ภาคการบริการ 2.1 แสนคน
ส่วนผู้ว่างงานจากภาคเกษตรกรรมมีประมาณ 2 แสนคน

เมื่อเปรียบเทียบจำนวนผู้มีงานทำในเดือน ม.ค. 2551 พบว่าในเดือน ม.ค. 2552
ผู้มีงานทำมีจำนวนเพิ่มขึ้น 2.8 แสนคน (จาก 35.92 ล้านคน เป็น 36.20
ล้านคน) หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8
ถ้าพิจารณาตามสาขาอุตสาหกรรมที่สำคัญต่างๆ
พบว่าผู้มีงานทำในภาคเกษตรกรรมเพิ่มขึ้นประมาณ 1 หมื่นคน (จาก 12.47 
ล้านคน เป็น 12.48 ล้านคน) ส่วนผู้มีงานทำนอกภาคเกษตรกรรมเพิ่มขึ้นประมาณ
2.7 แสนคน (จาก 23.45 ล้านคน เป็น 23.72 ล้านคน)

โดยเพิ่มขึ้นในสาขาการโรงแรม/ภัตตาคาร 2.2 แสนคน สาขาบริหารราชการแผ่นดิน
1.4 แสนคน สาขาขายส่ง/ขายปลีก 1.8 แสนคน  สาขาการขนส่งเพิ่มขึ้น 4 หมื่นคน
ส่วนที่ลดลงเป็นสาขาการผลิต 5.4 แสนคน สาขาก่อสร้าง 5 หมื่นคน
ที่เหลืออยู่ในสาขาอื่นๆ

ในอุตสาหกรรมการผลิตที่ลดลงอย่างต่อเนื่องที่สำคัญ ได้แก่
การผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ลดลง 1.6 หมื่นคน การผลิตยานยนต์ 1.1 หมื่นคน
การผลิตไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ 9 พันคน การผลิตสิ่งทอ 8 พันคน
การผลิตผลิตภัณฑ์จากแร่อโลหะ 7 พันคน การผลิตผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก 4
พันคน
การผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์และการผลิตอุปกรณ์ที่ใช้ในการแพทย์ลดลงเท่ากัน
คือ 3 พันคน และการผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้าลดลง 2 พันคน

สรุปได้ว่า การทำงานของประชากรในเดือน ม.ค. 2552 มีผู้ว่างงานทั้งสิ้น 8.8
แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงานร้อย ละ 2.4
เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว มีผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น
2.5 แสนคน แต่ถ้าเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมา ผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 3.4
แสนคน (เพิ่มขึ้นจาก 5.4 แสนคน เป็น 8.8 แสนคน)
เห็นได้ว่าภาวะการว่างงานจะมีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้น
หากการจ้างงานในภาคการผลิตยังลดลงอย่างต่อเนื่องในเช่นปัจจุบัน

ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์