“ธรรมนิติ” แม้จะเป็นองค์กรธุรกิจ แต่เรามีความแตกต่างจากองค์กรธุรกิจโดยทั่วไป ชาวธรรมนิติทั้งปวงจึงต้องสนใจ และทำความเข้าใจสภาพการณ์นี้ โดยเฉพาะลักษณะพิเศษที่ทำให้เรามีความแตกต่างจากองค์กรธุรกิจทั่วไป ที่สำคัญได้แก่

๑. ลักษณะประวัติศาสตร์ ที่ธรรมนิติดำเนินงานต่อเนื่องมาถึง ๔๓ ปีแล้ว โดยไม่มี “เจ้าของ” คือไม่มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สามารถควบคุมกิจการได้โดยสิทธิขาด ความ “ไม่มีเจ้าของ” นี้ ได้ทำให้ธรรมนิติเป็นของชาวธรรมนิติทุกๆ คน นี่เป็นข้อดีข้อเด่นของเรา เพราะ “ความไม่มีเจ้าของ” โดยนัยเช่นนี้ ทำให้ธรรมนิติ ได้รับการทะนุถนอม หวงแหน และได้รับการพิทักษ์สืบทอดโดยคนหมู่มาก อันเป็นปัจจัยแห่งการสืบทอดธรรมนิติจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่คนอีกรุ่นหนึ่งอย่างราบรื่น โดยไม่ดับสูญไป ดังที่ธุรกิจหลายแห่งซึ่งมี “เจ้าของ” เพียงคนเดียวกำลังประสบอยู่โดยทั่วไป

๒. ลักษณะปรัชญาชี้นำ เราถือ “วิถีแห่งธรรมนิติ” เป็นปรัชญาชี้นำการดำเนินงาน การจัดองค์กร การปฏิบัติต่อคน ทั้งต่อชาวธรรมนิติและลูกค้า ตลอดจนการสร้างสรรค์ด้านต่างๆ ของเรา ในการขยายธุรกิจ เราถือทฤษฎีกอไผ่และในเรื่องเป้าหมายของธุรกิจเราเน้นผลกำไรที่ไม่เป็นตัวเงิน (ที่สำคัญได้แก่เกียรติภูมิ ความเชื่อถือ ความศรัทธาจากมหาชน) เป็นด้านหลัก และถือเอาผลกำไรที่เป็นตัวเงินเป็นด้านรอง และด้วยเหตุนี้ธรรมนิติจึงมีงบดุล ๒ ชุด คืองบดุลตามกฎหมายว่าด้วยบัญชีและภาษีอากร กับงบดุลตามแนวทางปรัชญาของเรา ซึ่งมีสินทรัพย์ หนี้สิน รายได้ รายจ่าย กำไร และขาดทุน ที่ไม่เป็นตัวเงินอีกด้วย

๓. ลักษณะการบริหาร เราเชิดชูการบริหารแบบประชาธิปไตย และการนำรวมหมู่องค์กรทุกระดับชั้นของเราประกอบขึ้นและบริหารโดยคณะบุคคลและใช้วิธีประชาธิปไตยในการดำเนินงาน ด้วยท่วงทำนองที่ถนอมรักผู้ปฏิบัติงาน การบริหารและท่วงทำนองเช่นนี้ได้ตราไว้เป็นข้อบังคับของบริษัท และมีผลบังคับทุกๆ คนที่เป็นชาวธรรมนิติ และเป็นเรื่องที่ชาวธรรมนิติพึงน้อมใจนำมาปฏิบัติ

๔. ลักษณะครบวงจรและก้าวหน้า ธรรมนิติเป็นองค์กรธุรกิจวิชาชีพที่มุ่งดำเนินงานบริการวิชาชีพครบวงจร ทำให้ลูกค้าของเราได้รับความสะดวกรวดเร็ว และได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากการใช้บริการของเรา ธุรกิจที่ครบวงจรนี้จำต้องมีลักษณะที่ก้าวหน้าด้วย ดังนั้น การสร้างเสริมความรู้ เครื่องไม้เครื่องมือที่เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามารับใช้องค์กรของเราจึงเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและจริงจังต่อไป

๕. ลักษณะเป็นอิสระเป็นตัวของตัวเองและพึ่งตนเอง ธรรมนิติเป็นสถาบันวิชาชีพอิสระที่ไม่สังกัดกลุ่มธุรกิจหรือกลุ่มการเมืองใด เราจะไม่ตั้งตนเป็นศัตรูกับใครโดยเฉพาะ ทั้งเราจะไม่มีผลประโยชน์ทางธุรกิจร่วมกับกลุ่มธุรกิจหรือกลุ่มการเมืองใดเป็นพิเศษ ดังนั้น เราจึงสามารถให้บริการแก่องค์กรธุรกิจต่างๆ ได้อย่างกว้างขวาง ไม่มีขอบเขตและไม่มีที่สิ้นสุด การพัฒนาเติบใหญ่ของธรรมนิติตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการสนับสนุนช่วยเหลือของลูกค้าและมิตรของเราจำนวนมาก แต่ที่สำคัญเกิดขึ้นจากความมานะพยายามของชาวธรรมนิติเอง แต่ไหนแต่ไรมา แนวนโยบายและแผนงานทั้งปวงของธรรมนิติล้วนเริ่มต้น และตั้งอยู่บนรากฐานแห่งกำลังของเราเอง ด้านหนึ่งเราส่งเสริมให้ชาวธรรมนิติสร้างความสัมพันธ์อันดี และแสวงหาความร่วมมือสนับสนุนกับองค์กรต่างๆ อย่างกว้างขวาง แต่อีกด้านหนึ่งเราก็คัดค้านการนำธรรมนิติไปอิงหรืออยู่ภายใต้อิทธิพลขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง เหล่านี้คือลักษณะที่เป็นอิสระเป็นตัวของตัวเองและพึ่งตนเองของธรรมนิติ


(อาคารธรรมนิติ เลขที่ 178 ซอยเพิ่มทรัพย์ (ประชาชื่น 20) ถนนประชาชื่น แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ)

ชาวธรรมนิติ ไม่ใช่เป็นแค่พนักงานหรือลูกจ้าง หากเราคือ ผู้สืบทอดภารกิจ สืบทอดอุดมการณ์ของธรรมนิติจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง “พิทักษ์นามธรรมนิติให้ยืนยงทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรี เกียรติภูมิ ความศรัทธา เชื่อมั่นของมหาชนตลอดไป”

หมายเหตุ : บางตอนจากมติสภากรรมการ “ว่าด้วยเป้าหมาย แนวทาง นโยบาย และแผนงานปี ๒๕๓๓” ซึ่งสภากรรมการมีมติในการประชุมครั้งที่ ๕๓ เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ ข้อความดังกล่าวเป็นการอรรถาธิบายเกี่ยวกับลักษณะพิเศษของธรรมนิติ ซึ่งผู้ถือหุ้น ผู้บริหาร และพนักงานควรให้ความสนใจ

สำนักกรรมการจัดการ
๑๓ กันยายน ๒๕๓๔