เตือนองค์กรธุรกิจใช้ซอฟต์แวร์ถูกกฎหมาย

นสพ.โพสต์ทูเดย์ รายงานเมื่อวันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2551 ว่า บก.ปศท.เตือนองค์กรธุรกิจมีเวลา 30 วัน ในการปรับเปลี่ยนมาใช้ซอฟต์แวร์ถูกกฎหมาย

พ.ต.อ. ศรายุทธ พูลธัญญะ รองผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และเทคโนโลยี  (บก.ปศท.)เปิดเผยถึงความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรซอฟต์แวร์หรือบีเอสเอ ในโครงการป้องปรามซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ ว่า เนื่องจากการที่ผู้แทนการค้าของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศยกระดับไทยเป็นประเทศที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูง เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์เป็นเรื่องที่มีการกระทำผิดมากและเรื่องดังกล่าวได้สร้างความเสียหายกับชื่อเสียงของประเทศ

ดังนั้นในฐานะหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบ จึงร่วมจัดทำโครงการดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้ให้องค์กรธุรกิจที่ยังกระทำผิด ปรับเปลี่ยนมาใช้ซอฟต์แวร์ที่ถูกลิขสิทธิ์ ภายในช่วง 30 วันก่อนวันที่ 16 ตุลาคม ซึ่งจะดำเนินการอย่างจริงจังในการลงโทษองค์กรธุรกิจที่ฝ่าฝืน มีโทษทั้งจำและปรับในอัตราที่สูง

พ.ต.อ.ศรายุทธ กล่าวอีกว่า ข้อมูลที่ได้จากการเปิดสายด่วนรับแจ้งเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ ขณะนี้มีรายชื่อภาคธุรกิจที่ผิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก จึงเตือนให้องค์กรธุรกิจที่ใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายทำการปรับเปลี่ยนให้ถูกต้องภายในช่วง 30 วันนี้ ทั้งนี้สถิติการจับกุมซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายในประเทศได้เพิ่มขึ้นทุกปี โดยปีนี้ได้มีการจับกุมผู้กระทำผิดไปแล้ว 45 ราย มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 120 ล้านบาท

ในความผิดข้อหาบริษัทละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟแวร์ ตามพรบ.ลิขสิทธิ์นั้น กรรมการบริษัทอาจต้องร่วมรับผิดกับพนักงานผู้กระทำละเมิด เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่า ไม่ได้รู้เห็นหรือยินยอมกับการละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟแวร์ บริษัทจึงควรต้องประกาศนโยบายในการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ให้ชัดเจน ออกระเบียบปฏิบัติที่เหมาะสม และกำหนดให้มีผู้รับผิดชอบด้านคอมพิวเตอร์ ตรวจตราซอฟแวร์ที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของบริษัทเป็นประจำ