๑. การคัดเลือกพนักงานเข้าทำงาน บริษัทถือคุณสมบัติในด้านมีความรู้, มีความสามารถ, มีประสบการณ์และมีประวัติที่ดีทั้งด้านการศึกษาและการทำงานเป็นหลักสำคัญในการพิจารณา

     ๒. การบรรจุ แต่งตั้ง และมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบแก่พนักงาน บริษัทจะพิจารณาถึงความเหมาะสมในด้านตำแหน่งหรือสภาพของงาน, ความสนใจ ตลอดจนความถนัดของพนักงานผู้นั้น ตามหลักใช้คนโดยถือคุณธรรมและความสามารถ

     ๓. บริษัทถือว่าการทำธุรกิจเป็นการเข้าหุ้นกันระหว่างแรงงาน, ทุน และการจัดการ ดังนั้น ผลกำไรที่เกิดขึ้นจากกิจการ นอกจากพึงสงวนไว้เพื่อใช้ขยายกิจการของบริษัทแล้ว จึงควรแบ่งออกเป็นสามส่วน คือ ส่วนที่หนึ่งตอบแทนแก่เจ้าของทุน หรือผู้ถือหุ้นในรูปของเงินปันผล ส่วนที่สองและส่วนที่สามตอบแทนแก่ผู้บริหารและพนักงานในรูปของเงินเดือน, สวัสดิการและโบนัส การพิจารณาว่าจะสงวนผลกำไรไว้เพื่อขยายกิจการเป็นจำนวนเท่าใด หรือตอบแทนแก่แต่ละส่วนเท่าใดนั้น บริษัทจะพิจารณาตามฐานะและผลประกอบการของกิจการในแต่ละระยะ

     ๔. บริษัทถือหลักพิจารณาค่าตอบแทนแก่พนักงานตามความสามารถ ตามผลงานและตามฐานะของกิจการ

     ๕. บริษัทส่งเสริมให้พนักงานทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต, มีความรับผิดชอบ, มีระเบียบวินัย, มีจิตใจเป็นเจ้าของกิจการ, ตั้งใจทำงานด้วยความมุมานะ, ขยันขันแข็ง, มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์, มีบทบาทในการส่งเสริมความสามัคคีภายในและส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า หรือกับบุคคลอื่นภายนอกบริษัท บริษัทจะใช้หลักเกณฑ์ข้างต้นในการสำรวจตรวจสอบ และประเมินผลการทำงานของพนักงาน

     ๖. บริษัทประสงค์ที่จะยกระดับสวัสดิการ และมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของพนักงานให้ดีขึ้นอย่างมีขั้นตอน แต่พนักงานพึงเข้าใจว่า สวัสดิการและมาตรฐานความเป็นอยู่ จะยกระดับขึ้นได้ก็ต่อเมื่อกิจการของบริษัทเจริญก้าวหน้าและมีผลกำไร รวมทั้งพนักงานจะต้องยกระดับความรู้ ความสามารถ ในการปฏิบัติงานให้สูงขึ้นอย่างมีขั้นตอนด้วย

     ๗. บริษัทสนับสนุนให้พนักงานได้ยกระดับ และพัฒนาความรู้ ความสามารถของตน ตลอดจนความเชี่ยวชาญในเทคนิคและวิธีการทำงานต่างๆ ทั้งนี้ โดยผ่านการฝึกฝนจากการทำงาน, สรุปบทเรียนจากประสบการณ์ของตนเอง ศึกษาจากผู้อื่นและได้รับการฝึกอบรมทั้งภายในและภายนอกบริษัท

     ๘. ในชีวิตการทำงาน บริษัทประสงค์ให้พนักงานทุกคนมีความสุข, มีความสุขสบายใจ และอยู่ร่วมกันกับบริษัทเป็นเวลายาวนาน ดังนั้น หากพนักงานมีปัญหาหรือความยุ่งยากใดๆ พนักงานควรต้องรายงาน หรือเสนอปัญหาให้ผู้รับผิดชอบทราบ เพื่อปรึกษาหารือ และกำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงไป

     ๙. พนักงานพึงต้องสนใจศึกษาและปฏิบัติตามวิถีแห่งธรรมนิติ รวมทั้งมติของสภากรรมการในเรื่องต่างๆ ด้วยความเข้าใจอย่างถ่องแท้ และด้วยการปฏิบัติตามอย่างจริงจังในเรื่องดังกล่าวข้างต้น จะเป็นรากฐานแห่งการทำงานร่วมกันในธรรมนิติ และจะเป็นรากฐานแห่งความสำเร็จก้าวหน้าของทั้งธรรมนิติและของตัวพนักงานเอง

     ๑๐. แนวทางการถนอมรักผู้ปฏิบัติงาน และนโยบายเกี่ยวกับการพนักงานของธรรมนิติ เป็นหลักปฏิบัติของธรรมนิติ ต่อชาวธรรมนิติ ผู้รับผิดชอบในทุกระดับ และชาวธรรมนิติทุกคนพึงต้องสนใจศึกษาและปรับปรุงการปฏิบัติให้เป็นไปตามแนวทางนโยบายนี้อย่างเคร่งครัด

หมายเหตุ : คณะกรรมการบริหารชุดที่ ๑๑ ลงมติในการประชุมครั้งที่ ๑๗๖ เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๓๒ ให้กำหนดแนวทางนโยบายเกี่ยวกับการพนักงานของธรรมนิติตามที่คณะกรรมการลักษณะงานบุคลากรที่มี นายพิชัย พืชมงคล เป็นประธานผู้เสนอ