• ธรรมนิติ
  • /
  • ข่าว
  • /
  • ยกฟ้องพ่อ-แม่เหยื่อหวัด 2009 ฟ้องรพ.ศิครินทร์-ไทยนครินทร์ พร้อมคณะแพทย์เรียก 31.2 ล้าน

ยกฟ้องพ่อ-แม่เหยื่อหวัด 2009 ฟ้องรพ.ศิครินทร์-ไทยนครินทร์ พร้อมคณะแพทย์เรียก 31.2 ล้าน

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ห้องพิจารณาคดี 10 ศาลจังหวัดพระโขนง ถนนสรรพาวุธ ศาลพิพากษายกฟ้องคดีที่ นายธวัชสิทธิ์ และนางธัญญพัฒน์ ตวงสินกุลบดี สามีภรรยา และเป็นบิดามารดา นายพีรวีร์ ตวงสินกุลบดี ผู้ตาย เป็นโจทก์ฟ้องบริษัทโรงพยาบาล (รพ.) ศิครินทร์ ที่ 1 บริษัทโรงพยาบาลไทยนครินทร์ ที่ 2 นพ.ดำรงค์ ประกายทิพย์ นพ.สุทธิศักดิ์ ไชยอัชนรัตน์ และ นพ.หิรัญย์ ศรีจินไตย แพทย์ รพ.ไทยนครินทร์ เป็นจำเลยที่ 1-5 เรื่อง ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายในฐานะผู้บริโภค เรียกค่าเสียหาย 31.2 ล้านบาท


คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2552 ด.ญ.ชญาณ์พิศา โฆษิตเบ็ญจพล ป่วยเป็นไข้หวัด 2009 และเข้ารักษาโรงพยาบาลศิครินทร์ โดยนายพีรวีร์ ลูกพี่ลูกน้องกับ ด.ญ.ชญาณ์พิศา ได้แวะไปเยี่ยมดูแลเป็นประจำ จนนายพีรวีร์ต้องเข้ารักษาตัวในวันที่ 24 มิถุนายน 2552 เนื่องจากมีอาการตัวร้อนและไอ โดยมีจำเลยที่ 3 เป็นผู้รักษา และให้กลับบ้าน ทั้งๆ ที่อาการยังไม่ดีขึ้น จนญาติต้องส่งโรงพยาบาลศิครินทร์ อีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ญาติขอให้จำเลยที่ 4 เป็นผู้รักษาแทนพบว่าเป็นปอดบวม เมื่อเอกซเรย์ปอดเป็นฝ้าขาว แล้วอุทานว่าอาจารย์ (จำเลยที่ 3) ปล่อยกลับไปได้ยังไง จากนั้นจำเลยที่ 4 จึงเดินมาแจ้งญาติว่าจะส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลไทยนครินทร์ เนื่องจากมีแพทย์เฉพาะทางโดยไม่ได้ให้ยาต้านไวรัสหวัด 2009 ต่อมาจำเลยที่ 5 ได้วินิจฉัยว่านายพีรวีร์เป็นโรคปอดบวมและไม่ได้ซักประวัติโรคหวัด 2009 เมื่ออาการไม่ดีขึ้นญาติขอย้ายไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จนนายพีรวีร์ ถึงแก่ความตาย จำเลยจึงฟ้องเรียกค่าเสียหายรวม 31.2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5


โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานนำสืบทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า พยานโจทก์ที่เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเบิกความขัดแย้งกันในหลายประเด็น โดยเฉพาะพยานโจทก์ปาก นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ของกระทรวงสาธารณสุข ที่เบิกความรับว่า จำเลยที่ 3-5 ซึ่งเป็นแพทย์ของโรงพยาบาล จำเลยที่ 1 และ 2 ได้ทำการตรวจรักษาผู้ตายตามหลักการแพทย์และได้นำน้ำมูกซึ่งเป็นสารคัดหลั่ง ของผู้ตายส่งไปตรวจพิสูจน์เพื่อหาเชื้อเอช 5 เอ็น 1 ซึ่งผลออกมาเป็นลบ อีกทั้งแพทย์ รพ.บำรุงราษฎร์ ก็ระบุสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ตายว่าเนื่องจากปอดวายเฉียบพลัน ไม่ใช่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009


เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าผู้ตายไม่ได้เสียชีวิตเพราะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จำเลยทั้งห้าจึงไม่จำต้องรับโทษฐานกระทำการประมาทในการตรวจรักษา พิพากษายกฟ้องและให้โจทก์ทั้งสองร่วมกันจ่ายค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความ แก่จำเลยทั้งห้ารวมเป็นเงิน 1 แสนบาท ภายใน 30 วันหลังจากศาลมีคำพิพากษา


ภายหลัง นางธัญญพัฒน์  มารดาผู้ตาย กล่าวว่า ตนเองและครอบครัวน้อมรับผลคำพิพากษาของศาล และยืนยันจะขอต่อสู้คดีต่อไปให้ถึงที่สุดเพื่อทวงความยุติธรรมเพราะยังเชื่อว่าต้องสูญเสียลูกชายไปเพราะการตรวจรักษาที่ขาดความรอบคอบของแพทย์